โครงการพระราชดำริ ภายใต้พระราชดำริของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ตลอดระยะเวลากว่า 79 ปีที่พระองค์ทรงเสด็จพระราชดำเนินติดตามพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เพื่อเยี่ยมเยือนพสกนิกรไทยตามพื้นที่ต่าง ๆ พระองค์ท่านทรงพบเจอกับปัญหาที่แต่ละพื้นที่ต้องพบเจอ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ปัญหาความยากจน เนื่องจากประชาชนในพื้นที่ห่างไกลไม่มีอาชีพ ไม่มีที่ดินทำกินเป็นหลักเป็นแหล่ง ตลอดจนปัญหาด้านทรัพยากรธรรมชาติที่ถูกทำลาย
พระองค์ท่านทรงจัดตั้งโครงการพระราชดำริ เพื่อส่งเสริมการสร้างอาชีพ ให้ประชากรสามารถเลี้ยงชีพ เลี้ยงครอบครัวในระยะยาวในพื้นที่ชุมชนของตนเอง ซึ่งโครงการภายใต้การดำริของพระองค์ท่านมีทั้งด้านเกษตรกรรม ปศุสัตว์ การอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ การเพาะเลี้ยงพันธุ์สัตว์หายาก ตลอดจนด้านศิลปหัตถกรรม
ในปัจจุบันยังคงได้รับการสืบสานต่อมา บางแห่งไม่ได้เปิดให้เข้าชม แต่หลายแห่งเปิดให้เข้าชมในเชิงศึกษาเรียนรู้และการท่องเที่ยว
บทความนี้ Painaikandee จะพาไปรู้จักกับ 8 โครงการของพระองค์ท่านที่เราสามารถเข้าไปเที่ยวชมได้
โครงการบ้านเล็กในป่าใหญ่ตามพระราชดำริ ดอยคำ
โครงการบ้านเล็กในป่าใหญ่ จังหวัดเชียงใหม่ ก่อตั้งเมื่อวันที่ 21 มกราคม 2545 โดยพระราชดำริของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง มีจุดประสงค์เพื่อมอบหมายให้ชาวบ้านในพื้นที่ช่วยกันดูแลและปลูกป่า ซึ่งเป็นป่าต้นน้ำ อีกทั้งยังเป็นยามเฝ้าระวังชายแดน โดยเฉพาะปัญหายาเสพติด

การจัดตั้งโครงการบ้านเล็กในป่าใหญ่ เป็นการศึกษาวิจัยการอยู่ร่วมกันระหว่างคนกับป่า ปัจจุบันยังคงดำรงรักษาผืนป่าในจังหวัดเชียงใหม่ และเปิดให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสกับวิถีชีวิตชนเผ่า 4 เผ่าที่อาศัยอยู่ร่วมกัน ได้แก่ อาข่า ลีซอ มูเซอร์ และกะเหรี่ยง
นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาดแวะจุดชมวิวดอยคำ จะพบกับทะเลหมอกยามเช้า โดยเฉพาะช่วงเวลาตั้งแต่ปลายฝนต้นหนาว ไปจนถึงปลายเดือนมกราคม นอกจากนี้ ในช่วงหน้าหนาวจะได้พบกับใบไม้เปลี่ยนสี ทัศนียภาพสวยงามราวกับภาพวาด ส่วนใหญ่เหมาะสำหรับสายตั้งแคมป์ บริเวณพื้นที่โครงการมีจุดกางเต็นท์ที่สามารถรองรับได้มากถึง 50 หลัง และรถบ้านอีกประมาณ 4 คัน
ศูนย์ศิลปาชีพบางไทร จังหวัดอยุธยา
ศูนย์ศิลปาชีพบางไทร โครงการพระราชดำริของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวงที่มีชื่อเสียงติดอันดับต้น ๆ ของประเทศไทย สถานที่แห่งนี้เป็นแหล่งเรียนรู้ศิลปหัตถกรรมของไทย เป็นศูนย์รวมศิลปหัตถกรรมพื้นบ้านจากทั้ง 4 ภาคของไทยไว้ ณ ที่แห่งนี้

โครงการนี้เป็นจุดประสงค์เพื่อส่งเสริมให้เกษตรกรมีรายได้เสริมหลังจากว่างจากการทำเกษตร ภายในเป็นที่ตั้งของมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ปัจจุบันมีอยู่ด้วยกัน 32 แผนก เช่น แผนกปั้นตุ๊กตาชาววัง แผนกช่างปักผ้า แผนกช่างไม้แกะสลัก แผนกเครื่องเรือนไม้ แผนกช่างวาดภาพสีน้ำมัน ฯลฯ
นอกจากนี้ ภายในยังแบ่งโซนพื้นที่ห้องเรียนวิชาต่าง ๆ อีกทั้งยังถูกใช้เป็นพื้นที่จัดแสดงมากมาย เปิดให้นักท่องเที่ยวสามารถศึกษาเรียนรู้งานฝีมือแขนงต่าง ๆ ฟรี
โครงการพระราชดำริปางตอง 2 (ปางอุ๋ง)
“ปางอุ๋ง” ตั้งอยู่ในโครงการสวนป่าในพระราชดำริ ปางตอง 2 ซึ่งเป็นโครงการในพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ในอดีตพื้นที่แห่งนี้เคยถูกรุกป่า และเป็นเขตพื้นที่อันตราย พระองค์ท่านจึงได้มีพระราชดำริจัดตั้งโครงการ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อฟื้นฟูป่า เน้นการปรับปรุงสภาพป่าบริเวณอ่างเก็บน้ำปางตองใหม่และฝายปางอุ๋ง บนเนื้อที่ 20,860 ไร่
มีรับสั่งให้ชาวบ้านปลูกป่าระบบนิเวศ ป่าเปียก จัดทำแนวกันไฟ และฝ่ายชะลอน้ำ ตลอดจนจัดทำโครงการธนาคารอาหารชุมชน โดยมีเป้าหมายในการพัฒนาคุณภาพชีวิตประชาชนในพื้นที่

ปางอุ๋งได้รับฉายาว่า “สวิตเซอร์แลนด์แดนสามหมอก” ที่มาของชื่อมาจากบรรยากาศบริเวณอ่างเก็บน้ำตั้งอยู่ใจกลางทิวสนสามใบ ตอนเช้ามีหมอกปกคลุมคล้ายกับสถานที่ในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ยังไงยังงั้น หากต้องการเดินทางมาเที่ยวปางอุ๋ง แนะนำว่าควรมาช่วงเดือนธันวาคม – กุมภาพันธ์ เป็นช่วงที่อากาศเย็นสบาย ใบไม้ผลัดใบ วิวทิวทัศน์สวยงามราวกับภาพวาดในโปสเตอร์
ศูนย์อนุรักษ์พันธุ์ทะเลกองทัพเรือ สัตหีบ
หนึ่งในโครงการพระราชดำริ ที่เห็นถึงความสำคัญของการอนุรักษ์พันธุ์เต่าทะเล เริ่มต้นจากปัญหาที่ท่านพบว่าเต่าทะเลใกล้จะสูญพันธุ์ จึงจัดทำเป็นโรงอนุบาลพันธุ์เต่าทะเล ดำเนินการภายใต้ความดูแลของกองทัพเรือสัตหีบ
โรงอนุบาลเปิดให้นักท่องเที่ยวและผู้ที่สนใจได้เข้ามาศึกษาดูงานและท่องเที่ยว ภายในแบ่งออกเป็น 2 โซน คือ โซนโรงอนุบาลพันธุ์เต่า มีบ่ออนุบาลและโรงพยาบาลเต่า พื้นที่เพาะพันธุ์เต่า ก่อนปล่อยคืนสู่ธรรมชาติ นอกจากนี้ ยังมีโซนจัดแสดงนิทรรศการอควาเรียม จัดแสดงเพื่อศึกษาเรียนรู้โลกใต้ทะเลและเต่าทะเล

ความสำเร็จของโครงการ ส่งผลให้ปัจจุบันมีจำนวนสะสมลูกเต่าทะเลที่ได้รับการอนุบาลและปล่อยคืนธรรมชาติไปแล้วกว่า 18,667 ตัว จำนวนของลูกเต่าทะเลที่ได้รับการรักษาในโรงพยาบาลเนื่องจากการเกยตื้น ติดอวน และบาดเจ็บสาหัสกว่า 3,940 ตัว และจำนวนนักท่องเที่ยวที่เข้าเยี่ยมชมศูนย์อนุรักษ์เต่าทะเลกว่า 1,764,845 ราย
ศูนย์อนุรักษ์พันธุ์กล้วยไม้รองเท้านารี อินทนนท์
ศูนย์อนุรักษ์พันธุ์กล้วยไม้รองเท้านารี อินทนนท์ เป็นส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ จังหวัดเชียงใหม่ แหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ที่นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่จะมาชมดอกพญาเสือโคร่งในช่วงหน้าหนาว ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ออกดอกบานสะพรั่ง อากาศกำลังเย็นสบาย

นอกจากจุดชมวิวดอกพญาเสือโคร่ง หากมีโอกาสแนะนำว่าให้ลองแวะเยี่ยมชมศูนย์วิจัยเกษตรหลวง ขุนวาง และโครงการเพาะพันธุ์กล้วยไม้รองเท้านารี โครงการในพระราชดำริของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวงที่ให้ความสำคัญกับการอนุรักษ์พันธุ์กล้วยไม้รองเท้านารี กล้วยไม้พันธุ์หายากและราคาแพง ซึ่งจะออกดอกเพียงปีละครั้งเท่านั้น
โครงการบ้านเล็กในป่าใหญ่ ผานาง-ผาเกิ้ง
โครงการบ้านเล็กในป่าใหญ่ ผานาง-ผาเกิ้ง นับว่าเป็นพระมหากรุณาธิคุณของพระพันปี เนื่องด้วยพระองค์ท่านทรงเห็นถึงความยากจนของชาวบ้านภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่ส่วนใหญ่จะยากจน ซ้ำยังต้องเผชิญกับภัยแล้ง น้ำท่วม ไหนจะฟ้าฝนที่ไม่แน่นอน ส่งผลต่อภาคการเกษตร อีกทั้งทรงเป็นห่วงป่าไม้ถูกทำลายลงไปเรื่อย ๆ
พระองค์ท่านทรงจัดตั้ง “โครงการบ้านเล็กในป่าใหญ่ ผานาง – ผาเกิ้ง” ซึ่งเป็นหนึ่งใน โครงการพระราชดำริ โดยให้ความสำคัญกับการรักษาสภาพป่าให้สมบูรณ์ ไม่ให้ถูกทำลาย อีกทั้งสร้างอาชีพให้ชาวบ้าน โดยจัดสรรพื้นที่ป่าเป็น 3 ส่วน ได้แก่ ป่าธรรมชาติ ป่าใช้สอย และป่าเศรษฐกิจ

นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางไปเยี่ยมชมผานาง – ผางเกิ้ง จังหวัดเลย เน้นการท่องเที่ยวเชิงเกษตร ศึกษาเรียนรู้การดูแลรักษาป่า วัฒนธรรมท้องถิ่น และดูงานฝีมือของชาวบ้านในพื้นที่ เช่น งานหัตถกรรม งานทอผ้าไหม การผลิตเครื่องครัวจากไม้ไผ่และไม้สัก โรงเพาะเห็ด เช่น เห็ดหลินจือ เห็ดหอม เห็ดนางฟ้า
โครงการฟาร์มตัวอย่างตามพระราชดำริ และศูนย์ตุ๊กตาชาววังบางเสด็จ
ศูนย์ตุ๊กตาชาววังบางเสด็จ อ.ป่าโมก จ.อ่างทอง เป็นโครงการที่ริเริ่มขึ้นจากเหตุอุทกภัยเมื่อปี 2549 ซึ่งถือว่าเป็นเหตุการณ์อุทกภัยครั้งใหญ่ในจังหวัดอ่างทอง ส่งผลให้ชาวบ้านขาดรายได้ พระองค์จึงทรงจัดตั้งฟาร์มตัวอย่างในโครงการ “ศูนย์ตุ๊กตาชาววังบ้านบางเสด็จ” เพื่อช่วยให้ชาวบ้านมีอาชีพเลี้ยงตัวเองและครอบครัวได้

การท่องเที่ยวภายในโครงการ เราจะได้พบกับการปลูกผักปลอดสารพิษ เช่น เพาะเห็ด ผักผลไม้ การปลูกสวนป่า ตลอดจนชมโรงปั้นตุ๊กชาววัง ในวัดท่าสุทธาวาส ซึ่งที่นี่จะเป็นลักษณะรวมกลุ่มแบบสหกรณ์ แต่ละบ้านจะมีการปั้นตุ๊กชาววังบนบ้านเรือนไทย เราสามารถเที่ยวชมดูการปั้นตุ๊กตาแบบโบราณ พร้อมทั้งแวะซื้อตุ๊กตากลับไปเป็นของที่ระลึกได้ด้วย
โครงการส่งเสริมศิลปาชีพบ้านสมพรรัตน์
โครงการส่งเสริมศิลปาชีพบ้านสมพรรัตน์ ตั้งอยู่ในตำบลหนองสะโน อำเภอบุณฑริก จังหวัดอุบลราชธานี กลุ่มทอผ้าไม้และงานหัตถกรรม เป็นภูมิปัญญาชาวบ้านที่ทอผ้าไหมแบบดำเนินการเองทุกขั้นตอน ตั้งแต่การปลูกหม่อนไหม การเลี้ยงไหม การสาวไหม การฟอกสี การออกแบบลวดลายบนผ้าไหม การมัดหมี่ การย้อมสี ตลอดจนการทอผ้า
ที่นี่คือแหล่งเรียนรู้เชิงวัฒนธรรม จะได้เห็นการทอผ้าไหมจากฝีมือชาวบ้านทุกขั้นตอน หรือจะซื้อผ้าไหมไปเป็นของฝาก ซึ่งมีทั้งผ้าไหมมัดหมี่ ผ้าโสร่ง ผ้ากาบบัว ผ้าไหมพื้นเรียบ และผลิตภัณฑ์จากรังไหม

นี่เป็นเพียงบางส่วนของโครงการพระราชดำริของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวงที่พระองค์ท่านทรงทำมาตลอดกว่า 79 ปี บางแห่งเราสามารถเข้าไปท่องเที่ยวได้ ทั้งนี้ บางโครงการหากเราจะเข้าไปเยี่ยมชม แนะนำว่าควรติดต่อหน่วยงานก่อนเข้าไปเยี่ยมชมด้วยนะ
- 8 โครงการพระราชดำริ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ ที่เที่ยวเชิงอนุรักษ์ - October 30, 2025
- มัดรวมงานเทศกาลปลายปี 2568 ทั่วไทย งานเที่ยว งานกิน ฟินครบ! - October 25, 2025
- รถไฟนำเที่ยว ปลายตุลา 2568 จองตั๋วเที่ยวก่อนเข้าสู่หน้าหนาวปลายปี - October 20, 2025





