เที่ยวเมืองลี่เจียง เมืองมรดกโลก สัมผัสหิมะใกล้ไทยที่ภูเขามังกรหยก

ตารางเนื้อหา

ลี่เจียง เมื่อเวลาย่างเข้าสู่ช่วงท้ายปีแบบนี้ อากาศหนาวเย็นชวนให้นึกถึงบรรยากาศหนาวเย็น หิมะขาวโพลน ถ้าจะสัมผัสหิมะ ก็มักจะนึกถึงโซนยุโรป หรือไม่เกาหลี ญี่ปุ่นที่เดินทางไม่ไกล ค่าใช้จ่ายไม่สูงมาก แต่ถ้าเราจะบอกว่ามีที่ใกล้กว่านั้น แถมราคาสบายกระเป๋า เดินทางง่าย อยู่ใกล้เมืองไทย แถมมีหิมะให้เล่นตลอดปี ไม่ต้องรอแค่ช่วงหน้าหนาวล่ะคุณจะเชื่อว่ามีจริงไหม

ตอบเลยว่ามีจริง สถานที่ที่เรากำลังจะพูดถึงก็คือ ลี่เจียง เมืองเล็ก ๆ ทางตอนใต้ของจีนที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก อยู่ไม่ไกลจากเมืองไทย อีกทั้งยังมีภูเขาที่ปกคลุมด้วยหิมะทั้งปีอีกด้วย บทความนี้ painaikandee จะพาไปรู้จักสถานที่แห่งนี้ว่ามีอะไรน่าสนใจบ้าง

ลี่เจียง เมืองมรดกโลกซ่อนเสน่ห์ทางธรรมชาติและวัฒนธรรมร่วม 800 ปี

ลี่เจียง (Lijiang) เมืองขนาดเล็กทางตะวันตกเฉียงใต้ของสาธารณรัฐประชาชนจีนที่มีอายุร่วมกว่า 800 ปี ลี่เจียงเป็นเมืองประวัติศาสตร์ที่มีความสำคัญของจีน ในอดีตเคยเป็นจุดแลกเปลี่ยนสินค้าบนเส้นทาง Tea Horse ปัจจุบันถูกแบ่งออกเป็นโซนย่านเมืองเก่าที่ยังคงรักษาขนบวัฒนธรรมเดิม โบราณสถาน และสถาปัตยกรรมโบราณ และโซนเมืองใหม่ที่ถูกพัฒนากลายย่านท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวทั่วทุกมุมโลก

ตัวเมืองรอบล้อมด้วยเทือกเขาเหิงต้วน ซึ่งคั่นกลางระหว่าง “ที่ราบสูงซิงไห่ – ทิเบต” กับ “ที่ราบสูงยูนนาน – กุ้ยโจว” ภูมิอากาศเป็นลักษณะ Subtropical Highland ช่วงฤดูหนาวอากาศจะหนาวเย็น มีหิมะ ส่วนฤดูฝน ฝนจะตกชุก โดยรวมแล้วอากาศจะหนาวเย็นตลอดทั้งปี อุณหภูมิเฉลี่ยตลอดปีจะอยู่ประมาณ 13.3 องศาเซลเซียส อากาศเย็นสุด -5 องศาเซลเซียส จึงเป็นจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวชาวไทยที่มีจุดมุ่งหมาย เที่ยว จีน หิมะ เดินทางไม่ไกลมาก

สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมอันดับ 1 เมื่อมาเยือนที่นี่ แน่นอนว่า ภูเขามังกรหยก ยังคงเป็นจุดหมายปลายทางที่ได้รับความนิยมเสมอมา โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจากเอเชีย เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และยุโรป ในขณะเดียวกัน “เมืองโบราณลี่เจียง” ย่านเมืองเก่าที่ได้รับการจดทะเบียนเป็นมรดกโลก ก็ยังคงเป็นจุดหมายปลายทางที่นักเดินทางจะต้องไม่พลาด รวมถึงสถานที่สำคัญที่มีบทบาททั้งทางเศรษฐกิจ ประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม และธรรมชาติที่สวยงามยังคงรอนักเดินทางมาเยือนเสมอ นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางมาเยี่ยมเยือนได้ตลอดปี

สถานที่ท่องเที่ยวสำคัญที่ห้ามพลาดเมื่อมาเยือนลี่เจียง

การท่องเที่ยวในเมือง ลีเจียง มีทั้งการท่องเที่ยวทางธรรมชาติ วัฒนธรรม และสถาปัตยกรรมโบราณทั้งในย่านเมืองเก่าและเมืองใหม่ หากคุณซื้อแพ็คเกจทัวร์ บริษัททัวร์ส่วนใหญ่จะจัดทริปเที่ยวเมืองลี่เจียง-แชงกลีรา ซึ่งเป็นพื้นที่เชื่อมต่อกัน เต็มไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจมากมายตลอดเส้นทาง

ภูเขาหิมะมังกรหยก (Jade Dragon Snow Mountain)

ภูเขามังกรหยก หรือที่หลายคนเรียกติดปากว่า “ภูเขาหิมะมังกรหยก” นับว่าเป็นหมุดหมายสำคัญที่หากมาเยือนที่นี่จะต้องห้ามพลาด เพราะนี่คือแลนด์มาร์คโดดเด่นตั้งอยู่ทางทิศเหนือของ ลี่เจียง ลักษณะเป็นภูเขาสูงตระหง่าน มี 13 ยอด ดูคล้ายกับมังกรในตำนานความเชื่อของชาวจีนโบราณ จุดเด่นคือบนภูเขามีหิมะปกคลุมตลอดทั้งปี วิวทิวทัศน์งดงามราวกับสวรรค์บนดิน

ภูเขามังกรหยกเมืองลี่เจียง
Cr. shrugmyshoulder

นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเยือน ภูเขามังกรหยก แทบทุกคนจะต้องนั่งกระเช้าลอยฟ้า Glacier Park Cable Car ซึ่งจะผ่านป่าที่ปกคลุมด้วยหิมะขาวโพลน ในฤดูร้อนสามารถมองเห็นธารน้ำแข็ง ความสูงกว่า 2,915 เมตร ที่ภูเขาหิมะมังกรหยกแห่งนี้จึงถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งสถานที่น่าสนใจสำหรับนักท่องเที่ยวชาวไทยที่อยากสัมผัสหิมะ ไม่ต้องเดินทางไกลถึงยุโรป เที่ยวจีน หิมะ ก็สามารถสัมผัสกับบรรยากาศหนาวเย็น ธรรมชาติที่งดงามราวกับภาพวาดในหนังจีนกำลังภายในใกล้เมืองไทยนี่เอง

เมืองโบราณลี่เจียง (Lijiang Old Town)

เมืองโบราณที่มีอายุร่วมสมัยกว่า 800 ปี ในอดีตเคยเป็นจุดแลกเปลี่ยนและทำการค้าบนเส้นทาง Tea Horse บ้านเมืองเป็นสไตล์จีนโบราณ ทางเดินถูกปูด้วยหินอ่อน มีการสร้างคูคลองตัดผ่านใจกลางเมือง และมีสะพานเชื่อมเล็ก ๆ หลายร้อยจุด ทำให้ที่นี่ได้ฉายาว่า “เวนิสแห่งตะวันออก” ด้วยการวางผังเมืองและการออกแบบโครงสร้างคล้ายกับเมืองเวนิส ประเทศอิตาลี

เมืองมรดกโลกลี่เจียง
Cr. tripadvisor

ปัจจุบันเมืองโบราณได้รับการดัดแปลงเป็นร้านขายของต้อนรับนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลก โดยในปี 1997 ย่านเมืองเก่า ลี่เจียง ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากองค์กร UNESCO ในฐานะเมืองเก่าที่เต็มไปด้วยเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ วัฒนธรรมท้องถิ่น และสถาปัตยกรรม นักท่องเที่ยวสามารถเดินเที่ยวชมตามเส้นทางรอบเมือง แวะซื้อของฝาก เช่น ชา เครื่องดินเผา ผ้าทอพื้นเมือง  

ทะเลสาบไป๋สุยเหอ (Baishuihe River)

ทะเลสาบไป๋สุยเหอ มีอีกชื่อหนึ่งว่า “ทะเลสาบกระจก” เนื่องจากความใสของน้ำในทะเลสาบที่ฟ้าใสราวกับกระจกสะท้อน ตัวทะเลสาบตั้งอยู่ท่ามกลางหุบเขาพระจันทร์ (Blue Moon Valley) อยู่เขตเดียวกันกับภูเขามังกรหยก น้ำในทะเลสาบเกิดจากการละลายของน้ำแข็งบนภูเขามังกรหยก ไหลรวมกับน้ำด้านล่าง จนเกิดเป็นสีฟ้าเทิร์ควอยส์ ไหลลดหลั่นลงมาในลักษณะขั้นบันไดบนชั้นหินปูนสีขาวยาวกว่า 3 กิโลเมตร เนื่องจากเกิดจากการละลายของหิมะบนภูเขา ทำให้น้ำในทะเลสาบเย็นตลอดทั้งปี

ทะเลสาบไป๋สุยเหอ
Cr. amusingplanet

อุทยานน้ำหยก (Jade Water Village)

อีกหนึ่งแลนด์มาร์คที่หากคุณแวะเวียนมาเที่ยวภูเขาหิมะมังกรหยกแล้วห้ามพลาดคือ “อุทยานน้ำหยก” หมู่บ้านเล็ก ๆ บริเวณเชิงภูเขามังกรหยก บรรยากาศเงียบสงบ รายล้อมด้วยธรรมชาติ และเทือกเขาสูงที่ปกคลุมด้วยหิมะตลอดปี ที่นี่มีน้ำพุขนาดใหญ่ที่เกิดจากการละลายของน้ำแข็งบนภูเขา ไหลลงมาบรรจบเป็นน้ำพุใจกลางหมู่บ้าน ชาวบ้านเชื่อกันว่า นี่คือน้ำพุศักดิ์สิทธิ์ตามความเชื่อของชาวหน่าซี พวกเขาเชื่อว่ากันว่าจะนำมาซึ่งความโชคดี มั่งคั่ง ร่ำรวย

อุทยานน้ำหยก
cr. mindtrip

สระมังกรดำ (Black Dragon Pool)

อีกหนึ่ง Unssen ที่นักท่องเที่ยวจะต้องไม่พลาดที่จะแวะเที่ยวชม พร้อมเก็บภาพสวย ๆ ของสะพานเล็กที่พาดผ่านสระมังกรดำ สระน้ำตามธรรมชาติที่อยู่เชิงเขาหิมะมังกรหยก ถ่ายภาพบนสะพาน โดยมีฉากหลังเป็นภูเขาหิมะ และสถาปัตยกรรมจีนโบราณที่เกิดจากการผสมผสานวัฒนธรรมร่วมของจีน หน่าซี และทิเบต ที่ถูกสร้างขึ้นสมัยราชวงศ์ชิงในปี ค.ศ. 1737

สระมังกรดำ
cr. jakeanddannie

ช่องแคบเสือกระโจน (Tiger Leaping Gorge)

“หู่เที่ยวเสีย” ชื่อเรียกของคนในท้องที่ที่บอกถึง “ช่องแคบเสือกระโจน” ช่องแคบเล็ก ๆ ริมแม่น้ำแยงซี ด้านล่างมีลำธารจากแม่น้ำไหลผ่าน ช่องแคบแห่งนี้ชาวหน่าซียกให้เป็นสัญลักษณ์แหล่งความกล้าหาญและเอาชีวิตรอดจากอุปสรรคที่ยากลำบาก สืบเนื่องจากเรื่องเล่าในตำนานของชาวหย่าซีที่ว่ากันว่า ในอดีตเคยมีเสือตัวหนึ่งถูกนายพรานล่ามาหยุดที่หน้าผาแห่งนี้ เสือตัวนั้นใช้ความกล้าหาญกระโจนข้ามหน้าผาได้อย่างปลอดภัย

ช่องแคบเสือกระโจน
Cr. nomadasaurus

ช่องแคบเสือกระโจนแห่งนี้ ถือว่าเป็นไฮไลท์หลักของทริปการท่องเที่ยว นักท่องเที่ยวสามารถยืนถ่ายภาพหุบเขาสูงชัน มีสายน้ำเบื้องหลังสีเขียวมรกตกำลังไหลผ่านด้วยความแรงตลอดปี เบื้องหน้าคือฉากภูเขาใหญ่ของยอดเขามังกรหยกตั้งเด่นเป็นสง่าอยู่เบื้องหน้า

การเดินทาง

การเดินทางมาเที่ยว ลี่เจียง จากประเทศไทยสามารถเดินทางไปทั้งทางเครื่องบิน รถโดยสารประจำทาง และรถไฟความเร็วสูง

  • การเดินทางโดยเครื่องบิน

การเดินทางโดยเครื่องบิน คุณสามารถบินตรงไปยังท่าอากาศยาน Lijiang Sanyi International Airport โดยตรงได้เลย การเดินทางระยะสั้นใช้เวลาเพียง 2 ชั่วโมงเศษเท่านั้น

  • การเดินทางโดยรถโดยสารประจำทาง

หากใครที่อยากเดินทางแบบ Road Trip คุณสามารถเลือกเดินทางด้วยรถโดยสารประจำทาง วิธีนี้จะต้องใช้เส้นทาง R3A ให้ขึ้นรถโดยสารที่จังหวัดเชียงราย เข้าชายแดนไปทางฝั่ง สปป.ลาว เข้าสู่บ่อเต็น-บ่อหาน แล้วเข้าสู่ประเทศจีนทางสิบสองปันนา จากนั้นเข้าสู่ ลี่เจียง เมื่อเข้าสู่ย่านเขตเมืองแล้ว คุณสามารถต่อรถโดยสารภายในเมืองเพื่อเดินทางไปยังสถานที่ต่าง ๆ ได้เลย

กรณีที่ใครไม่สะดวกเดินทางด้วยตัวเอง คุณสามารถซื้อแพคเกจทัวร์จากบริษัททัวร์ภายในประเทศ หรือทัวร์ในเมืองลี่เจียง ซึ่งทัวร์ส่วนใหญ่มักจะจัดทริปร่วมหลายเมืองในระแวกนั้น เช่น คุณหมิง – ลีเจียง ลีเจียง – แชงกรีล่า ราคาส่วนใหญ่เริ่มต้นเพียง 10XXX