ใครที่อยากพิสูจน์รักแท้ ต้องพาคนที่เรารักไปพิชิตยอดภูที่ อุทยานแห่งชาติภูกระดึง เลย! ถ้าเขาคนนั้นสามารถเดินทางขึ้นไปถึงยอดเขากับเรา แถมยังช่วยกันดูแลระหว่างทางแบบไม่ทิ้งกัน เขาคนนั้นแหละคือรักแท้ของเราแน่นอน! นี่แหละคำพูดที่บอกต่อๆ กันเมื่อพูดถึง ภูกระดึง เพราะการขึ้นไปถึงยอดเขานั้นไม่ง่ายเลย ต้องเดินเท้ากว่า 9 กิโลเมตร (ขึ้นเขา 5 กิโลฯ บวกทางราบ 3-4 กิโลฯ) ฟังแล้วก็เหนื่อยแทนเลย! แต่ไม่ใช่แค่คู่รักนะที่มักไปที่นี่ เพื่อนๆ ก็ชอบไปกัน เพราะตอนเดินเหนื่อยสุดๆ แต่พอไปถึงข้างบนเจอธรรมชาติที่สวยงามแบบนี้ คุ้มค่าเกินบรรยาย
ที่เที่ยวหน้าหนาว ภูกระดึง จังหวัดเลย
Phu Kradueng คือ อุทยานแห่งชาติอันดับ 2 ของไทย ตั้งอยู่ที่ตำบลศรีฐาน อำเภอภูกระดึง จังหวัดเลย เป็นภูเขาหินทรายที่มียอดตัดและพื้นที่ราบกว้างใหญ่ประมาณ 60 ตารางกิโลเมตร สูงจากระดับน้ำทะเลตั้งแต่ 400 ถึง 1,200 เมตร ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติสุดฮิตของเมืองไทย จุดสูงสุดของภูคือ คอกเมย ที่มีความสูง 1,316 เมตรจากระดับน้ำทะเล ใครที่รักธรรมชาติและอยากท้าทายตัวเอง ต้องไปเช็คอินที่นี่!
เสน่ห์ของ อุทยานแห่งชาติภูกระดึง
สำหรับที่นี่เต็มไปด้วยธรรมชาติสุดปัง ทั้งพรรณไม้หลากหลาย สัตว์ป่านานาชนิด หน้าผาสูงชัน ทุ่งหญ้ากว้าง ลำธาร และน้ำตกสุดชิล นอกจากนี้ยังเป็นแหล่งต้นน้ำของ ลำน้ำพอง ซึ่งเป็นลำน้ำสำคัญของภาคอีสาน บรรยากาศบนยอดภูกระดึงเย็นสบายตลอดปี โดยเฉพาะช่วงฤดูหนาวที่อุณหภูมิอาจลดลงจนถึง 0 องศาเซลเซียส! ความเย็นนี้แหละที่ทำให้นักท่องเที่ยวหลายคนอยากมาเช็กอินที่นี่และพิชิตยอดภูกระดึงสักครั้งในชีวิต!
การเดินทางพิชิตยอดภูกระดึง
สำหรับการเดินทางขึ้นภูนั้น จากเฟซบุ๊ก อุทยานแห่งชาติภูกระดึง – Phu Kradueng National Park อัปเดตข้อมูลได้มีการปรับเวลาขึ้น-ลง มีรายละเอียด ดังนี้
- วันจันทร์-พฤหัสบดี ตั้งแต่เวลา 06.00-13.00 น.
- วันศุกร์-อาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 05.30-13.00 น.
และเพราะระยะทางในการเดินขึ้นเขาต้องใช้เวลาในการเดินเท้าประมาณ 4-5 ชั่วโมง ซึ่งจะตรงกับเวลาพลบค่ำในระหว่างทาง ดังนั้นนักท่องเที่ยวจำเป็นที่จะต้องวางแผนให้ดี ๆ ทั้งนี้เพื่อความปลอดภัยของตัวคุณเอง สำหรับเส้นทางขึ้นยอด ภูกระดึง ก็แบบวัดใจสุดๆ เริ่มจาก ซำแฮก ไล่ไปจนถึง ซำบอน, ซำกกกอก, ซำกกหว้า, ซำกกไผ่, ซำกกโดน, ซำแคร่ และช่วงสุดท้ายที่ต้องขึ้นไปยัง หลังแป คือลำบากที่สุด เพราะต้องปีนโขดหินและระวังตัวเยอะสุดๆ แต่ถ้าเหนื่อยก็ไม่ต้องห่วงนะ เพราะทุกซำมีร้านค้ามีของกินให้แวะพักดื่มน้ำทานขนมได้ จะไปจนถึงยอดก็ต้องเติมพลังกันบ้าง
ภูกระดึงเปิด-ปิดฤดูกาลท่องเที่ยวช่วงไหน
สำหรับที่อุทยานเปิดให้ท่องเที่ยวและพักแรมบนยอดภูตั้งแต่ 1 ตุลาคม ถึง 31 พฤษภาคม ของทุกปี แต่จะปิดช่วง 1 มิถุนายน ถึง 30 กันยายน เพื่อให้ธรรมชาติฟื้นฟูในช่วงฤดูฝน ใครอยากไปก็ต้องเช็กเวลากันดีๆ นะ และช่วงหน้าหนาวทางอุทยานก็ได้เปิดให้นักท่องเที่ยวขึ้นไชมทะเลหมอกสวยๆ เช่นเดียวกัน
สถานที่ท่องเที่ยวภูกระดึง ที่ต้องไปให้ได้
1. ผานกแอ่น
ผานกแอ่น คือจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นที่ปังมาก! เป็นลานหินเล็กๆ ที่มีต้นสนขึ้นเด่นๆ อยู่ริมหน้าผา อยู่ห่างจากที่พัก ศูนย์วังกวาง แค่ 2 กิโลเมตรเอง ทุกเช้าช่วงหน้าหนาวจะมีนักท่องเที่ยวแห่ไปถ่ายรูปกันเพียบ และก็มักจะมีการแย่งทำเลดีๆ กันเสมอ แต่เดี๋ยวก่อน! ทางไปตอนเช้ามักจะมี ช้างอาละวาด บางทีต้องไปกับเจ้าหน้าที่เท่านั้น ห้ามไปเองเด็ดขาดนะ
2. ผาหล่มสัก
ผาหล่มสัก คือจุดชมพระอาทิตย์ตกที่ห้ามพลาดถ้าไปเที่ยว หลายคนบอกเลยว่า ถ้าไม่ได้มาแวะที่นี่ก็เหมือนไม่ได้มาเยือนจริงๆ ตัวผาหล่มสักอยู่ห่างจาก ผาแดง ประมาณ 2.5 กิโลเมตร ถ้าเดินจากแยก ศูนย์โทรคมนาคมกองทัพอากาศ ก็จะตามเส้นทางน้ำตกไปเลย แต่ถ้าเดินจาก ศูนย์วังกวาง ก็ต้องเดินไกลหน่อย ประมาณ 9 กิโลเมตร ถ้าอยากไปต้องเตรียมตัวดีๆ เพราะขากลับจะมืดแน่นอน! ด้วยแผ่นหินแปลกตาและกิ่งสนที่พอดีๆ ทำให้ที่นี่เป็นจุดเด็ดในการชมพระอาทิตย์ตก และก็เป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ของ ภูกระดึง เลยนะ
3. ผาหมากดูก
ผาหมากดูก อยู่ห่างจาก ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว แค่ 2.5 กิโลเมตรเอง เป็นผาที่มีลานหินกว้างสุดๆ และก็เป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกที่ใกล้ที่พักที่สุดเลย สามารถชมวิวภูผาจิตใน อุทยานแห่งชาติน้ำหนาว ได้ชิลๆ ส่วนในช่วงต้นฤดูฝนก็จะมี ดอกกระเจียว บานเต็มทุ่งตามเส้นทางไปผาหมากดูก ถือเป็นวิวสวยๆ ที่ใครไปก็ต้องฟิน
4. ผาเหยียบเมฆ
ผาเหยียบเมฆ ตั้งอยู่กึ่งกลางระหว่างผาหมากดูกและผาหล่มสัก มีลักษณะเป็นลานหินกว้างสามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ได้ในระยะไกล
5. ผาแดง
ผาแดง หน้าผาหินทรายตัดตรงและมีก้อนหินเรียงราย บริเวณโดยรอบเป็นป่าสน เหมะสำหรับไปนั่งชมวิวถ่ายรูปเพลิน ๆ
6. น้ำตกวังกวาง
น้ำตกวังกวาง ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่าอยู่ใกล้ ศูนย์วังกวาง แค่ประมาณ 1 กิโลเมตรเอง! น้ำตกนี้มีห้วยเล็กๆ ไหลล้อมรอบที่พักอีกด้าน ไหลลงมาที่น้ำตก วังกวางเป็นน้ำตกเล็กๆ ชั้นสูงสุดประมาณ 7 เมตร และด้านข้างน้ำตกมีทางแคบๆ สำหรับปีนลงไปทีละคน จะเจอหลืบหินเหมือนถ้ำใต้ปะปนกับน้ำตกเลย! น้ำตกนี้สวยสุดในช่วงฤดูฝน (พฤษภาคม-ตุลาคม) ส่วนฤดูท่องเที่ยวที่น้ำค่อนข้างน้อย แต่ก็แวะมาชมได้ง่ายๆ ใกล้ที่พักเลย
7. น้ำตกถ้ำสอเหนือ
น้ำตกถ้ำสอเหนือ อยู่ห่างจากศูนย์บริการนักท่องเที่ยววังกวาง 4.8 กิโลเมตร เป็นน้ำตกขนาดกลาง สูง 10 เมตร น้ำไหลมาจากผาเป็นม่านน้ำตก บริเวณเหนือน้ำตกมีดงกุหลาบแดง ซึ่งในช่วงฤดูร้อนจะผลิดอกสร้างสีสันให้กับบริเวณนี้ให้สวยงามยิ่งขึ้น
8. น้ำตกเพ็ญพบใหม่
น้ำตกเพ็ญพบใหม่ เกิดจากลำธาร วังกวาง ไหลผ่านผาหินรูปโค้งที่ดูสวยมากๆ ในช่วงหน้าหนาว ใบเมเปิลที่อยู่ริมๆ น้ำตกจะร่วงลงไปลอยตามน้ำ พอแดดส่องผ่านมาจะเห็นเป็นสีแดงสดตัดกับสีเขียวๆ ของตะไคร่น้ำบนโขดหิน ชิลสุดๆ! ลำธารวังกวางนี้ยังเป็นต้นกำเนิดของน้ำตกอีกแห่งชื่อว่า น้ำตกโผนพบ ตั้งชื่อเพื่อเกียรติ โผน กิ่งเพชร นักชกแชมเปี้ยนโลกคนแรกของไทย ที่ค้นพบตอนซ้อมมวยเพื่อปรับตัวกับอากาศหนาวก่อนเดินทางไปชกต่างประเทศ
9. น้ำตกถ้ำใหญ่
น้ำตกถ้ำใหญ่ ห่างจากน้ำตกเพ็ญพบใหม่ประมาณ 1.4 กิโลเมตร เส้นทางเดินไปสู่น้ำตกจะครอบคลุมไปด้วยป่าดิบเขาที่มีพรรณไม้ใหญ่และร่มครึ้ม บางช่วงจะมีลำห้วยเล็ก ๆ ที่มีต้นเมเปิลอยู่เป็นระยะ ๆ และในช่วงต้นเดือนมกราคมจะแดงฉานด้วยใบเมเปิลที่ร่วงหล่นเกลื่อนพื้นป่า เป็นอีกหนึ่งความงามที่ใคร ๆ ก็อยากไปเห็นด้วยตาตัวเองสักครั้ง
10. น้ำตกธารสวรรค์
น้ำตกธารสวรรค์ จากน้ำตกถ้ำใหญ่เมื่อออกสู่ป่าสนไม่ไกลนักจะมีทางแยกบนลานหินสู่น้ำตกธารสวรรค์ อยู่ห่างจากที่พักตามเส้นทางป่าสนผ่านลานองค์พระพุทธเมตตาเพียง 1.6 กิโลเมตรเท่านั้น เป็นน้ำตกขนาดเล็ก
11. สระอโนดาต
สระอโนดาต อยู่ห่างจากศูนย์บริการนักท่องเที่ยว 2.7 กิโลเมตร เป็นสระน้ำขนาดไม่ใหญ่นักที่มีต้นสนขึ้นเป็นแนวแน่นขนัด ใกล้กันยังมีลานกินรี ซึ่งเป็นสวนหินธรรมชาติที่อุดมไปด้วยพรรณไม้ ทั้งพวกกินแมลงอย่างดุสิตา หยาดน้ำค้าง หรือเฟิร์น เช่น กระปรอกสิงห์ บนหินยังมีไลเคนขึ้นอยู่เต็มไปหมดด้วย
การจองที่พักบนภูกระดึง
ถ้าอยากนอนบ้านพักต้องจองล่วงหน้า 60 วันนะจ๊ะ ผ่านเว็บไซต์ nps.dnp.go.th หรือโทรไปที่ฝ่ายบริการที่พักที่เบอร์ 0-2562-0760, 0-2561-0777 ต่อ 1743, 1744 หรือจะโทรหาที่อุทยานก็ได้ที่เบอร์ 0-4281-0833, 0-4281-0834 ส่วนใครที่อยากนอนเต็นท์ อุทยานก็มีเต็นท์ให้บริการ และมีพื้นที่กางเต็นท์รองรับเยอะมากไม่ต้องห่วงเลย!
สำหรับเพื่อน ๆ ที่อยากไปสัมผัสธรรมชาติบนภูกระดึง ก็แนะนำให้เผื่อเวลาอย่างน้อย 3 วันนะ เพื่อจะได้เที่ยวแบบฟิน ๆ ชิล ๆ อุทยานแห่งชาติเปิดให้เที่ยวได้แค่ช่วงตุลาคมถึงพฤษภาคมเท่านั้น ส่วนช่วงมิถุนายนถึงกันยายนจะปิดปรับปรุงธรรมชาติและสถานที่พักต่าง ๆ เพราะฉะนั้นเช็กก่อนออกเดินทางด้วยนะ ใครที่อยากเป็นแบ็กแพ็กเกอร์ ก็จัดกระเป๋าแล้วไปกันได้เลย!
- 5 ร้านอาหารยอดฮิตย่านบรรทัดทอง ของคาว ของหวาน จัดเต็ม! - January 13, 2025
- แนะนำ 5 ร้านเนื้อย่างญี่ปุ่น 2025 สุดพรีเมี่ยม บอกได้เลยว่าดีย์ - January 10, 2025
- 6 คาเฟ่ขอนแก่น สไตล์มินิมอล ตกแต่งสวย เค้กอร่อย ตามไปเช็คอินโลด! - January 7, 2025