คาเฟ่

เที่ยว 15 อุทยานแห่งชาติ ตามพี่จอง กับ คัลแลน สายเดินป่า ต้องไปเที่วสักครั้ง

15 อุทยานแห่งชาติ ตามพี่จอง กับ คัลแลน สายเดินป่า ต้องไปเที่วสักครั้ง
ตารางเนื้อหา

ครั้งนี้มาเอาใจคนรักธรรมชาติ ชอบเที่ยวป่าเขา สูดอากาศดีๆ ใช้ชีวิตท่ามกลางต้นไม้ใบหญ้าสีเขียว และสัตว์ป่า พาทุกคนไปเที่ยวอุทยานแห่งชาติ ตามพี่จองกับคัลแลนกันค่ะ ซึ่งแต่ละที่จะมีที่เที่ยวต่างๆ ที่โดดเด่นแตกต่างกันออกไป ทางเราจึงคัดมาแค่ 15 อุทยานแห่งชาติ ที่สวยที่สุดในไทย ต้องบอกเลยว่าต้องลองไปเที่ยวให้ได้สักครั้ง ตามไปสูดโอโซนให้เต็มปอดกันค่า รับรองว่าใจฟูตามพี่จองกับคัลแลนอย่างแน่นอน

1. อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ จ. นครราชสีมา

เขาใหญ่
เขาใหญ่

เขาใหญ่ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่ 10 อำเภอ ใน 4 จังหวัดด้วยกันค่ะ คือ นครราชสีมา สระบุรี นครนายก และปราจีนบุรี อีกทั้ง เป็นอุทยานแห่งแรกของไทย รวมถึงยังได้รับการประกาศให้เป็นมรดกโลก ทางธรรมชาติจากองค์การยูเนสโกในปี 2548 อีกด้วย

อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่
เขาใหญ่

นอกจากนี้ที่นี่ยังอุดมสมบูรณ์ไปด้วยธรรมชาติอันสวยงาม เป็นผืนป่าใกล้กรุงเทพฯ และมีสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติมากมาย ทั้ง ภูเขา น้ำตก จุดชมวิวพระอาทิตย์ขึ้น และสัตว์ป่า ให้เราได้ใกล้ชิดสุดๆ จึงทำให้มีนักท่องเที่ยวมาใช้ชีวิต สูดอากาศดีๆ กางเต็นท์ ในช่วงวันหยุดที่เขาใหญ่มากมายอีกด้วยน้า

2. อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ จ. เชียงใหม่

อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์
ดอยอินทนนท์

ตั้งอยู่ในพื้นที่ อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่ เป็นอุทยานขึ้นชื่ออันดับ 1 ของเชียงใหม่กันเลยทีเดียวเพราะเป็นที่ตั้งของ ดอยอินทนนท์ ซึ่งเป็นยอดดอยที่สูงที่สุดในประเทศไทยค่ะ ตลอดระหว่างการเดินทางขึ้นยอดดอยอินทนนท์ตลอด 2 ข้างทางจะมีสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย ไม่ว่าจะเป็น น้ำตกวชิรธาร น้ำตกแม่กลาง บ้านแม่กลางหลวง จุดชมทิวทัศน์ กม. 41 โครงการหลวง เส้นทางศึกษาธรรมชาติกิ่วแม่ปาน พระมหาธาตุเจดีย์ และอากาศที่หนาวเย็นตลอดทั้งปีอีกด้วยค่ะ

3. อุทยานแห่งชาติภูกระดึง จ. เลย

อุทยานแห่งชาติภูกระดึง
ภูกระดึง

ภูกระดึง ตั้งอยู่ที่ อ.ภูกระดึง จ.เลย เป็นอุทยานฯ ที่นี่ไม่ได้เปิดให้เข้าชมตลอดปี ซึ่ง ฤดูกาลท่องเที่ยวจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม – 31 พฤษภาคม ของทุกปี เป็นระยะเวลา 8 เดือนด้วยกันค่ะ เพื่อให้ป่าไม้ฟื้นฟู และกลับมาสมบูรณ์ตามระบบนิเวศน์อีกครั้ง ส่วนเสน่ห์ของการมาเที่ยวภูกระดึง คือ ความท้าทายทั้งพละกำลังและจิตใจของผู้ที่จะขึ้นไปพิชิตยอดภูกระดึง เพราะจำเป็นจะต้องเดินป่าขึ้นไปบนยอดเขา ซึ่งใช้เวลาเกือบๆ ทั้งวันเลยทีเดียว แต่รับรองว่าคุ้มค่าเมื่อได้ไปถึง เพราะจะได้พบกับธรรมชาติอันสมบูรณ์ และสวยงามรอคุณอยู่แน่นอน

4. อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์ จ. พังงา

หมู่เกาะสุรินทร์ ตั้งอยู่ใน อ.คุระบุรี จ.พังงา เป็นหมู่เกาะที่ตั้งอยู่ในทะเลอันดามัน เรียกได้ว่าเป็นห้องเรียนธรรมชาติที่สมบูรณ์ เป็นที่รวมของระบบนิเวศน์จากป่าดิบชื้น ป่าชายหาด ป่าชายเลน แนวปะการัง ซึ่งเป็นระบบนิเวศน์ที่หลากหลายที่สุดในท้องทะเลเลยทีเดียวค่ะ

หมู่เกาะสุรินทร์
หมู่เกาะสุรินทร์

นอกจากนี้ หมู่เกาะสุรินทร์ 1 ใน 10 อันดับแหล่งดำน้ำที่สวยที่สุดในโลกอีกด้วย โดยเฉพาะบริเวณ กองหินริชิลิว ที่จะมีทั้ง ปะการังอ่อน ปะการังพัด กัลปังหา และดอกไม้ทะเล หลากหลายชนิด จึงเป็นแหล่งรวมพันธุ์ปลา และยังเป็นแหล่งรวมของสัตว์น้ำหายากบางชนิดอีกด้วย

5. อุทยานแห่งชาติแม่วงก์ จ. นครสวรรค์

อุทยานแห่งชาติแม่วงก์
อุทยานแห่งชาติแม่วงก์

ที่นี่เป็นผืนป่าตะวันตกที่สมบูรณ์มากที่สุดของประเทศไทย ครอบคลุมทั้ง 2 จังหวัด คือ กำแพงเพชร และ นครสวรรค์ และยังเป็นแหล่งกำเนิดต้นน้ำตามเทือกเขาสูง ก่อนเป็นน้ำตกที่สวยงามหลายแห่งด้วยกัน นอกจากนี้ที่นี่ยังมีสัตว์ป่าที่หายาก เช่น ช้างป่า กระทิง เสือ กวาง เก้ง หมี แมวลาย และนกต่างๆ มากกว่า 305 ชนิด เป็นผืนป่าที่อุดมสมบูรณ์และสวยงาม

อุทยานแห่งชาติแม่วงก์ จ. นครสวรรค์
อุทยานแห่งชาติแม่วงก์ จ. นครสวรรค์

สำหรับจุดที่นักท่องเที่ยวต้องไม่พลาดในการมาเที่ยว ก็คือ จุดชมวิวกิ่วกระทิง ตั้งอยู่กิโลเมตรที่ 81 จากที่ทำการอุทยานฯ ก็จะถึงหน้าผาที่สามารถเดินไปชมวิวเหนือยอดไม้ของผืนป่าได้ สำหรับคนรักการผจญภัย ต้องไม่พลาดกับสุดยอดเส้นทางเดินป่า การไปพิชิต ยอดเขาโมโกจู ยอดเขาที่สูงที่สุดในอุทยานแห่งชาติแม่วงก์ และสูงที่สุดในผืนป่าตะวันตกอีกด้วยค่ะ

6. อุทยานแห่งชาติเขาค้อ จ. เพชรบูรณ์

เขาค้อ ตั้งอยู่ใน จ.เพชรบูรณ์ บริเวณเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าเขาโปลกหล่น เขาค้อ เป็นผืนป่าอุดมสมบูรณ์ขนาดใหญ่กว่าสามแสนไร่ เป็นแหล่งกำเนิดของแม่น้ำลำธารมากมาย ภูมิประเทศเป็นภูเขาสูง ที่ปกคุลมไปด้วยทะเลหมอก มีอากาศที่หนาวเย็นตลอดทั้งปี จึงทำให้ที่นี่มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาชมทะเลหมอกที่นี่

อุทยานแห่งชาติเขาค้อ
เขาค้อ

นอกจากนี้ยังเคยเป็นหนึ่งในหน้าประวัติศาสตร์ไทยในช่วงคอมมิวนิสต์ ซึ่งเขาค้อนี่เองเป็นฐานที่มั่นสำคัญของพรรคคอมมิวนิสต์ ซึ่งรัฐบาลไทยในสมัยนั้นได้ส่งกำลังเจ้าทหารเข้าปราบปรามและมีการสู้รบยืดเยื้อนานหลายปี จึงทำให้มี อนุสรณ์สถานต่างๆ เพื่อระลึกถึงเหล่าทหารผู้เสียสละ บนเขาค้ออีกด้วย

7. อุทยานแห่งชาติเขาสก จ. สุราษฎร์ธานี

เขาสก ตั้งอยู่ที่ จ.สุราษฎร์ธานี มีสภาพพื้นที่เป็นธรรมชาติอันกว้างใหญ่ปกคลุมไปด้วยป่าดิบชื้น เป็นภูเขาสูงต่ำสลับซับซ้อน แหล่งท่องเที่ยวที่นักท่องเที่ยวนิยมมากที่สุดของที่นี่คือ เขื่อนรัชชประภา หรือ เขื่อนเชี่ยวหลาน และสามารถท่องเที่ยวได้ตลอดทั้งปี

อุทยานแห่งชาติเขาสก
เขาสก

ส่วนกิจกรรมที่น่าสนใจ คือ การล่องเรือชมความสวยงามของ กุ้ยหลินเมืองไทย และนอนพักค้างคืนบนแพริมน้ำต่างๆ พายเรือคายัค เที่ยวชมถ้ำ น้ำตก การล่องแก่ง เดินป่า นั่งช้าง ดูนก เดินศึกษาเส้นทางธรรมชาติ และชมความสวยงามของธรรมชาติยามเช้า

8. อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน จ. เพชรบุรี

อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน
อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน

แก่งกระจาน เป็นอุทยานที่มีพื้นที่ขนาดใหญ่ที่สุดของประเทศไทย ตั้งอยู่ใน จ.เพชรบุรี และ จ.ประจวบคีรีขันธ์ ที่มีความอุดมสมบูรณ์ เป็นป่าต้นน้ำลำธารของแม่น้ำเพชรบุรี และแม่น้ำปราณบุรี มีเอกลักษณ์ทางธรรมชาติที่น่าสนใจหลายแห่ง ทั้ง ทะเลสาบ น้ำตก ถ้ำ หน้าผาที่สวยงาม และประเทศไทยของเราได้นำเสนอเพื่อขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกอีกด้วย สำหรับแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของอุทยานฯ ได้แก่ ยอดเขาพะเนินทุ่ง เขื่อนแก่งกระจาน มีจุดชมทะเลหมอกที่ กม.36 นอกจากนี้ยังเป็นแหล่งดูนก ดูผีเสื้อ และสัตว์ป่านานาชนิด

9. อุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร จ. ศรีสะเกษ

อุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร
เขาพระวิหาร

เขาพระวิหาร ตั้งอยู่ในพื้นที่ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ และ อ.น้ำขุ่น อ.อำเภอน้ำยืน จ.อุบลราชธานี ซึ่งเป็นพื้นที่ส่วนหนึ่งของทิวเขาพนมดงรัก เป็นแหล่งต้นน้ำของลำห้วยลำธารต่างๆ และมีอาณาเขตด้านใต้ติดต่อกับประเทศกัมพูชา ภายในอุทยานฯ มีทิวทัศน์ที่สวยงามอยู่หลายแห่ง และเป็นท่องเที่ยวสำคัญ เช่น จุดชมทิวทัศน์ผามออีแดง จุดชมทิวทัศน์หน้าผาช่องโพย บริเวณป่า และสวนหินรอบสระตราว ถ้ำฤๅษี ภาพสลักนูนต่ำใต้ผามออีแดง น้ำตกผาช่องโพย และที่สำคัญคือ ปราสาทเขาพระวิหาร อันเป็นโบราณสถานสำคัญเก่าแก่ สำหรับถนน และบันไดทางขึ้นสู่ปราสาทเขาพระวิหารบริเวณ อยู่ที่ ผามออีแดง จ.ศรีสะเกษ

10. อุทยานแห่งชาติดอยหลวง จ. พะเยา

อุทยานแห่งชาติดอยหลวง จ. พะเยา
ดอยหลวง

ดอยหลวง ที่มีพื้นที่ครอบคลุม 3 จังหวัด คือ เชียงราย ลำปาง และพะเยา เป็นต้นกำเนิดของแม่น้ำวัง และแม่น้ำลาวในจังหวัดเชียงราย รวมไปถึงมีแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติมากมาย ทั้ง น้ำตกปูแกง น้ำตกวังแก้ว ซึ่งเป็นน้ำตกที่ใหญ่ที่สุด และยังมีเส้นทางเดินเท้าศึกษาธรรมชาติ

บอกเลยว่านักท่องเที่ยวสายแอดเวนเจอร์ไฮไลท์ที่พลาดไม่ได้คือ การขึ้นมาเที่ยวที่ ดอยหนอก ซึ่งเป็นดอยที่สูงที่สุดของดอยหลวง สามารถมองเห็นทะเลหมอก และทิวทัศน์ที่สวยงาม มีศูนย์บริการท่องเที่ยว มีร้านค้าไว้บริการ และลานกางเต็นท์ สำหรับการขึ้นไปพิชิตยอดดอยหนอกนั้น มี 2 เส้นทางคือ เส้นทางจากทางฝั่ง พะเยา และ ลำปาง

11. อุทยานแห่งชาติตะรุเตา จ. สตูล

อุทยานแห่งชาติตะรุเตา
อุทยานแห่งชาติตะรุเตา

ที่นี่เป็นอุทยานแห่งชาติทางทะเลแห่งแรกของประเทศไทย ที่มีชื่อเสียงทางด้านประวัติศาสตร์ และความสวยงามของธรรมชาติ ตั้งอยู่ในทะเลอันดามัน ห่างจากตัวเมืองสตูลประมาณ 40 กิโลเมตร และ ห่างจากฝั่งที่ท่าเรือปากบารา 22 กิโลเมตร และได้รับยกย่องจากองค์การยูเนสโก ในปี 2525 ให้เป็นมรดกแห่งอาเซียนค่ะ เพราะเต็มไปด้วยแหล่งท่องเที่ยวทางทะเล ปะการัง สัตว์น้ำต่างๆ ที่อุดมสมบูรณ์ ประกอบไปด้วยหมู่เกาะน้อยใหญ่ถึง 51 เกาะ และที่เที่ยวสำคัญที่นักท่องเที่ยวนิยมมากที่สุด ก็คือ เกาะหลีเป๊ะซึ่งเป็นที่อยู่ของชุมชนชาวเล

12. อุทยานแห่งชาติน้ำตกพลิ้ว จ. จันทบุรี

อุทยานแห่งชาติน้ำตกพลิ้ว
น้ำตกพลิ้ว

น้ำตกพลิ้ว ตั้งอยู่ใน จ.จันทบุรี ภายในอุทยานฯ นอกจากจะมี น้ำตกพลิ้ว ที่นักท่องเที่ยวนิยมมาชมความสวยงามของน้ำตกที่ไหลตลอดทั้งปีแล้ว ยังเป็นจุดที่จารึกประวัติศาสตร์สำคัญของไทยอีกด้วย เพราะเป็นน้ำตกที่ในหลวงรัชกาลที่ 5 ทรงเสด็จประพาสถึง 12 ครั้งด้วยกัน และทรงโปรดให้สร้าง พีระมิดแห่งความรักขึ้นที่แห่งนี้ เพื่อเป็นที่ระลึกแก่สมเด็จพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์ขึ้นนั่นเอง

13. อุทยานแห่งชาติป่าหินงาม จ. ชัยภูมิ

อุทยานแห่งชาติป่าหินงาม
ป่าหินงาม

  อุทยานแห่งชาติป่าหินงาม ตั้งอยู่ใน อ.เทพสถิต จ.ชัยภูมิ เป็นแหล่งต้นน้ำลำธารของลุ่มน้ำชี และแม่น้ำป่าสัก นอกจากนี้ ไฮไลท์ของการมาเที่ยวที่ป่าหินงามก็คือ ทุ่งดอกกระเจียว เพราะที่นี่ทุกปีจะมีการจัดงานเทศกาลชมดอกกระเจียวบาน ในช่วงเดือนมิถุนายน-สิงหาคม ซึ่งจะสะพรั่งพร้อมกันทั้งป่าเป็นพื้นที่ 62,437.50 ไร่ เลยทีเดียวค่ะ

14. อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า จ. พิษณุโลก

อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า
ภูหินร่องกล้า

ภูหินร่องกล้า ตั้งครอบคลุมพื้นที่รอยต่อของสามจังหวัด คือ อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์, อ.ด่านซ้าย จ.เลย และ อ.นครไทย จ.พิษณุโลก เป็นอุทยานฯ ที่มีธรรมชาติอันสมบูรณ์ แปลกตา และสวยงาม อีกทั้งยังเป็นพื้นที่ที่มีการขัดแย้งทางการเมืองจนเกิดการต่อสู้ของพรรคคอมมิวนิสต์ และรัฐบาลขึ้น จึงเป็นอุทยานเพียงแห่งเดียวในไทย ที่รักษาไว้ซึ่งประวัติศาสตร์ และความสวยงามทางธรรมชาติที่สมบูรณ์แบบเอาไว้

15. เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง จ. อุทัยธานี

เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง
เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง

 ปิดท้ายกันที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง แม้จะไม่ใช่อุทยาน แต่ก็ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็น มรดกโลก ทางธรรมชาติ โดยองค์การยูเนสโก ในปี 2534 ด้วยความหลากหลายทางชีวภาพ และ เป็นเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าขนาดใหญ่แห่งหนึ่งในประเทศไทย ที่เป็นผืนป่าที่ยังคงความอุดมสมบูรณ์ที่สุดแห่งหนึ่งของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

ห้วยขาแข้ง
ห้วยขาแข้ง

นอกจากนี้ที่แห่งนี้ยังเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยสำคัญของสัตว์ป่าหายากหลายชนิด บางชนิดอยู่ในสถานะใกล้สูญพันธุ์ เช่น สมเสร็จ, เก้งหม้อ, เลียงผา, กระทิง, วัวแดง, ควายป่า ซึ่งเป็นแหล่งที่อยู่ทางธรรมชาติแห่งสุดท้ายแล้วในประเทศไทย อีกทั้งยังเป็นแหล่งอาศัยของเสือโคร่ง ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยอีกด้วยค่ะ

ติดตามข่าวสารดี ๆ และสิ่งที่น่าสนใจเพิ่มเติมได้ทาง painaikandee

Tachin Meedech